จากเมื่อช่วงหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาเจ้า VivoSmartHR ของ ผบ. ผมมันแฮงค์ เอ๋อ ค้าง ใช้งานไม่ได้ เลยไปได้เจ้า Amazfit Verge Lite(มือสอง) มาให้ ผบ. ใช้แทนของเดิม ที่สุดท้ายมันดันกลับมาใช้งานได้ปรกติแบบงงๆ ครับ
สำหรับเจ้า Verge Lite ตัวนี้ มาในกล่องสีขาวเรียบ หรู ดูดีตามสไตล์เสี่ยวหมี ในกล่องมามีตัวนาฬิกา สายชาร์จ และคู่มืออีกหนึ่งเล่ม ตัวนาฬิกาทำด้วยวัสดุ polycarbonate หน้าจอเป็นจอ AMOLED ขนาด 1.3" 360x360 pixel multi-touch แบบกลม มีปุ่มกดด้านข้างอีกหนึ่งปุ่ม ส่วนตัวสายเป็นสายซิลิโคนขนาด 22 mm. แบบ quick release ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่าค่อนข้างสั้นซึ่งผมใส่เองยังเกือบสุดสาย
ตัวเครื่องมี GPS สามารถรับดาวเทียมได้สองระบบคือ GPS ของอเมริกา กับ Glonass ของรัสเซีย ที่ด้านหลังของตัวเรือนจะมี Heart Rate Sensor แบบ Optical และตัวเรือนสามารถกันน้ำระดับ IP68 ครับ สามารถใส่ล้างมือได้ครับ
แบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 390 mAmp สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20วัน หรือ 40ชั่วโมงใน mode GPS ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อกับ smartphone ด้วย bluetooth 5.0 แต่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ sensor ภายนอกเช่น Cadence, Power meter, Footpod เช่น Running Dynamic หรือ MileStone pod ได้ ซึ่งจะทำให้ขาดข้อมูลกิจกรรมในส่วนนี้ไปครับ
เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก ตัว Verge Lite จะบังคับให้เชื่อมต่อกับแอป mi fit ครับ (หรือเราจะใช้แอป Amazfit แทนกันก็ได้ครับ) เพื่อใช้ในการตั้งค่าต่างๆของตัวนาฬิกาเช่นการเปลี่ยนหน้า watchface การตั้งการแจ้งเตือน ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้ว เราสามารถใช้ function เพิ่มเติม เช่น find the phone เพื่อหาโทรศัพท์ หรือจะเป็น music control เพื่อใช้ควบคุมการเล่นเพลงบนโทรศัพท์ ตลอดไปจนถึงการ Sync ข้อมูลกิจกรรมไปยัง Strava หรือ Google Health
การใช้งานโดยทั่วไปไม่ได้ต่างกับ Smartwatch หรือ Smartband ตัวอื่นมากนัก มี function ในการนับก้าว เก็บข้อมูลการนอนหลับ คำนวณแคลอรี่ที่ใช้ และแจ้งเตือนต่างๆ
การใช้งานโดยทั่วไปไม่ได้ต่างกับ Smartwatch หรือ Smartband ตัวอื่นมากนัก มี function ในการนับก้าว เก็บข้อมูลการนอนหลับ คำนวณแคลอรี่ที่ใช้ และแจ้งเตือนต่างๆ
ตัวเครื่องมีการกำหนดรูปแบบของกิจกรรมการออกกำลังกายไว้ทั้งหมด 7รูปแบบกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง วิ่งบนลู่สายพาน ปั่นจักรยาน คาร์ดิโอ ซึ่งสามารถที่จะ upload ข้อมูลกิจกรรมไปยัง strava ผ่านทางแอป mi fit หรือ Amazfit ได้
ผมทดสอบบันทึกข้อมูลตอนวิ่ง เทียบกับ Garmin Instinct ที่ใช้อยู่ ปรากฏว่ามีระยะเกินมาประมาณ 50m. แต่ HR ที่วัดได้ค่อนข้างตรงกัน ในระหว่างวิ่งหน้าจอจะดับ ถ้าจะดูข้อมูลต้องกดที่ปุ่ม Home ด้านข้างหน้าจอก็จะติดครับ แต่ข้อควรระวังนิดหน่อยคือ ก่อนที่จะเริ่มวิ่ง หรือปั่นควรที่จะรอให้ตัวนาฬิกาจับสัญญาณ GPS ได้ก่อนแล้วค่อยกด Go ครับ
หน้าจอจะแสดงข้อมูลต่างๆที่จำเป็นเช่น ระยะทางในการวิ่ง ความเร็ว อัตราการเต้นของหัวใจ แต่ไม่สามารถปรับแต่งหรือแก้ไขได้
ระหว่างวิ่งตัวเครื่องสามารถแจ้งเตือนต่างๆได้เช่น ครบทุกๆระยะที่ตั้งไว้ เตือน heart rate ต่ำกว่า หรือสูงกว่า zone ที่ต้องการ หรือheart rate สูงกว่าค่าที่กำหนดไว้ได้
การจับสัญญาณ GPS ทำได้รวดเร็วไม่แพ้การ์มิน โดยใช้เวลาราวๆ 20วินาทีถึง 1นาที ซึ่ง Instinct ก็ใช้เวลาราวๆนี้เช่นกันครับ
ข้อมูลการวิ่งที่ได้จาก Verge Lite
ข้อมูลการวิ่งที่ได้จาก Garmin Instinct
ทดสอบข้อมูลตอนปั่น เปรียบเทียบกับ Garmin Edge820 ด้วความที่มันไม่สามารถต่อกับ sensor ภายนอกได้ จึงจะไม่มีข้อมูลของรอบขาครับ ตัวนาฬิกาจะจับความเร็วและระยะทางจาก GPS ระยะทางที่ได้เมื่อเทียบกับ Edge820 ระยะหายไปประมาณ 300m และไม่สามารถบันทึกค่าความชันได้เนื่องจากไม่มี barometer
ข้อมูลการปั่นที่ได้จาก Verge Lite
ข้อมูลการปั่นที่ได้จาก Garmin Edge820
เก็บข้อมูลการนอน Verge Lite ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับ Smartwatch หรือ Smart band อื่นๆ เช่นกันครับ โดยการวิเคราะห์การนอนสามารถบอกข้อมูลได้ว่าเราเริ่มหลับที่เวลาไหน ตื่นเวลาไหน หลับลึก หลับตื้นเท่าไหร่ แต่ไม่สามารถจับได้ว่าในระหว่างคืนมีการตื่นกี่ครั้ง ครั้งละกี่นาที ซึ่งจากการทดสอบ มันสามารถบอกได้ว่าผมเข้านอนก่อนเที่ยงคืนนิดหน่อยและตื่นตอนตีห้ากว่าๆ ซึ่งค่อนข้างตรง แต่ตอนที่ผมตื่นมาตอนตีสี่เพื่อไปเข้าห้องน้ำตัวนาฬิดาไม่สามารถจับได้
จากที่ทดลองใช้งาน โดยรวมแล้วส่วนตัวผมว่าคุ้มกับราคาที่จ่ายครับ สำหรับใครที่หา smartwatch ไว้ใช้ น่าจะเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจเลยล่ะครับ แต่ถ้าใครเน้นสายกีฬาต้องการการวางแผน workout, training plan ล่ะก็ไป Garmin ได้เลยครับ เพราะ Mi ไม่ feature นี้ให้ใช้งานครับ